พระกุมาร จะกำหนดนับไม่ได้. พระกุมารทรงผนวชในเวลาที่พระราชาทรง
อภิเษกครองราชย์ได้ ๔ ปี. ครั้งนั้น ยังมีพระกุมารองค์อื่น มีพระนามว่า
อัคคิพรหม ผู้เป็นพระสวามีของพระนางสังฆมิตตา ซึ่งเป็นพระภาคิไนยของ
พระราชา. พระนางสังฆมิตตาประสูติพระโอรส ของอัคคิพรหมองค์นั้นเพียง
องค์เดียวเท่านั้น. อัคคิพรหมแม้องค์นั้น
ผนวชแล้ว จึงเข้าไปเฝ้าพระราชา แล้วทูลขอพระบรมราชานุญาตว่า ขอเดชะ
แม้หม่อมฉัน ก็จักบวช ดังนี้. และอัคคิพรหมองค์นั้นได้รับพระบรมราชา-
นุญาตว่า จงบวชเถิด พ่อ ! ก็ ได้บวชในวันนั้นนั่นเอง. พระเถระผู้อันขัตติยชน
ซึ่งมีสมบัติอย่างโอฬาร บวชตามอย่างนี้ บัณฑิตพึงทราบว่า พระติสสเถระ
ผู้เป็นพระกนิษฐภาดาของพระราชา.
[พระติสสเถระนั่งกันไม่ให้อำมาตย์ตัดศีรษะพระ]
ท่านติสสเถระนั้น ครั้นเห็นอำมาตย์นายนั้นผู้ปฏิบัติผิดอย่างนั้นแล้ว
จึงดำริว่า พระราชา คงจะไม่ทรงส่งมาเพื่อให้ฆ่าพระเถระทั้งหลาย เรื่องนี้
จักเป็นเรื่องที่อำมาตย์คนนี้เข้าใจผิดแน่นอนทีเดียว ดังนี้ จึงได้ไปนั่งบนอาสนะ
ใกล้อำมาตย์นั้นเสียเอง. อำมาตย์นายนั้น จำพระเถระนั้นได้ ก็ไม่อาจฟัน
ศัสตราลงได้ จึงได้กลับไปกราบทูลแด่พระราชาว่า ขอเดชะ ! ข้าพระพุทธเจ้า
ได้ตัดศีรษะของพวกภิกษุชื่อมีประมาณเท่านี้ ผู้ไม่ปรารถนาทำอุโบสถให้ตกไป
ขณะนั้น ก็มาถึงลำดับแห่งท่านติสสเถระเท่านั้น ก็ตรัสว่า เฮ้ย ! ก็ข้า ได้ส่ง
เธอให้ไปฆ่าภิกษุทั้งหลายหรือ ? ทันใดนั้นเอง ก็เกิดความเร่าร้อนขึ้นใน
พระวรกาย จึงเสด็จไปยังพระวิหาร ตรัสถามพวกภิกษุผู้เป็นพระเถระว่า
No comments:
Post a Comment