จึงได้กล่าวไว้ว่า วันหนึ่งพระเจ้าอโศกประทับยืนอยู่ที่สีหบัญชร ได้ทอด
พระเนตรเห็นนิโครธสามเณร ผู้ฝึกฝน
ด้วยอิริยาบถ กำลังเดินผ่านไปทางพระลานหลวง ดังนี้.
[พระเจ้าอโศกทรงเลื่อมใสนิโครธสามเณร]
ครั้นทอดพระเนตรเห็นแล้ว พระราชาได้ทรงพระรำพึง ดังนี้ว่า
ชนแม้ทั้งหมดนี้ มีจิตฟุ้งซ่าน มีส่วนเปรียบเหมือนมฤคที่วิ่งพล่านไป, ส่วน
ทารกคนนี้ ไม่มีจิตฟุ้งซ่าน, การมองดู การเหลียวดู การคู้แขน และการ
เหยียดแขนของเขางามยิ่งนัก, ภายในของทารกคนนี้ น่าจักมีโลกุตรธรรม
แน่นอน ดังนี้ พร้อมกับการทอดพระเนตรเห็นของพระราชานั่นเอง พระ-
หฤทัยก็เลื่อมใสในสามเณร, ความรักก็ได้ตั้งขึ้น. ถามว่า เพราะเหตุไร ?
แก้ว่าเพราะได้ยินว่า แม้ในกาลก่อน ในเวลาทำบุญ นิโครธสามเณรนี้
ได้เป็นพ่อค้าผู้เป็นพี่ชายใหญ่ของพระราชา.
สมจริงดังคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ว่า
ความรักนั้น ย่อมเกิดเพราะเหตุ ๒
อย่าง คือ เพราะการอยู่ร่วมกันในภพก่อน ๑
เพราะการเกื้อกูลกันในปัจจุบัน ๑ เหมือน
อุบลและปทุมเป็นต้นที่เหลือ เมื่อเกิดในน้ำ
ย่อมเกิดได้เพราะอาศัยเหตุ ๒ ประการ คือ
น้ำและเปือกตมฉะนั้น¹.
¹ชุ.ชื่อ ขุ. อักษรย่อ คัมภีร์ขุททก ชา. ๒๗/๙๑. ตทฏฺฐกถา. ๓/๓๑๓.
No comments:
Post a Comment