Thursday, January 27

Phiksuni


[รวบรวมวินัยของภิกษุณีเป็นหมวด ๆ]
พระเถระทั้งหลายครั้นยกมหาวิภังค์ขึ้นสู่สังคหะอย่างนี้แล้ว จึงตั้ง
สิกขาบท ในภิกษุณีวิภังค์ไว้ว่า นี้ชื่อปาราชิกกัณฑ์
ตั้งสังฆาทิเสส ๑๗ สิกขาบทไว้ว่า
สัตตรสกัณฑ์ ตั้ง ๓๐ สิกขาบทไว้ว่า นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ตั้ง ๑๖๖ สิกขาบท
ไว้ว่า ปาจิตตีย์ ตั้ง สิกขาบทไว้ว่า ปาฏิเทสนียะ ตั้ง ๗๕ สิกขาบทไว้ว่า
เสขิยะ (และ) ตั้งธรรม ประการไว้ว่า อธิกรณสมถะ ดังนี้.
พระเถระทั้งหลาย ครั้นยกภิกษุภิกขุนี ภิกษุณีวิภังค์วิภังค์ขึ้นสู่สังคหะอย่างนี้แล้วจึงได้
ยกแม้ขันธกะและบริวารขึ้น (สู่สังคายนา) โดยอุบายนั้นนั่นแล. พระวินัยปิฎก
พร้อมทั้งอุภโตวิภังค์ขันธกะและบริวาร พระเถระทั้งหลายยกขึ้นสู่สังคหะแล้ว
ด้วยประการฉะนี้.
พระมหากัสสปเถระ ได้ถามวินัยปิฎกทั้งหมด. พระอุบาลีเถระก็ได้
วิสัชนาแล้ว. ในที่สุดแห่งการปุจฉาและวิสัชนา พระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ได้
ทำการสาธยายเป็นคณะ โดยนัยที่ยกขึ้นสู่สังคหะนั้นแล. ในอวสานแห่งการ
สังคายนาพระวินัย พระอุบาลีเถระวาวางพัดพัดวีชนีอันขจิตด้วยงาแล้ว ลงจาก
ธรรมาสน์ไหว้พวกภิกษุผู้แก่แล้วนั่งบนอาสนะที่ถึงแก่ตน.
[เริ่มสังคายนาพระสูตร]
ท่านพระมหากัสสป ครั้นสังคายนาพระวินัยแล้ว ประสงค์จะสังคายนา
พระธรรม จึงถามภิกษุทั้งหลายว่า เมื่อพวกเราจะสังคายนาพระธรรม ควรจะ
ทำใครให้เห็นเป็นธุระธุระ สังคายนาพระธรรม ?
ภิกษุทั้งหลายเรียนว่า ให้ท่านพระอานนทเถระ

Insert Table

   🔠  ₈₃

No comments:

Blog Archive

Phra Ratana Kosin Sok Thi 236 —239